fbpx

Your Cart

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

100% Secure Checkout!

ทำอย่างไรจึงจะสามารถป้องกันอาการบาดเจ็บและรักษาข้อต่อของเราเพื่อชีวิตที่กระฉับกระเฉง?

ทำอย่างไรจึงจะสามารถป้องกันอาการบาดเจ็บและรักษาข้อต่อของเราเพื่อชีวิตที่กระฉับกระเฉง?

ข้อต่ออยู่ที่จุดเชื่อมระหว่างกระดูก มันสนับสนุนและช่วยให้คุณเคลื่อนไหวได้ ไม่ว่าการทำลายข้อต่อจากโรคหรืออาการบาดเจ็บ สามารถรบกวนการเคลื่อนไหวของคุณและส่งผลต่ออาการเจ็บปวดอย่างมา

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดข้อต่อ

อาการปวดข้อต่อเป็นเรื่องปกติมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอายุของคุณ หนึ่งในผลสำรวจระดับประเทศประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่พบว่ามีอาการปวดข้อต่อในระยะ 30 วันที่ผ่านมา อาการปวดเข่ามักถูกบ่นถึงเป็นปกติที่สุด ตามมาด้วยการปวดไหล่และเอว แต่การปวดข้อต่อสามารถส่งผลต่อส่วนใดในร่างกายก็ได้ จากข้อเท้าและเท้าจนถึงหัวไหล่และมือ

การรักษาอาการปวดบริเวณข้อต่อ

อาการปวดข้อสามารถวัดระดับอาการปวดได้ตั้งแต่ปวดเล็กน้อยถึงรุนแรง มันอาจจะหายไปในเวลาไม่กี่สัปดาห์(อาการปวดเฉียบพลัน) หรือ เป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือเดือน(อาการปวดเรื้อรัง) แม้แต่อาการปวดระยะสั้น และอาการบวมที่ข้อต่อก็สามารถส่งผลต่อคุณภาพชีวิต อันดับแรกแพทย์จะพยายามวินิจฉัยและรักษาอาการซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอาการปวดข้อต่อของคุณ เป้าหมายคือการลดอาการปวดและการอักเสบ รวมถึงรักษาการทำงานของข้อต่อ 

กิจวัตรประจำวันของคุณสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสุขภาพระยะยาวของข้อต่อ ยกตัวอย่าง การเลือกอาหารที่เสริมสร้างความหนาแน่นของกระดูก ความแข็งแรงของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และลดการอักเสบ สามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บ และรักษาข้อต่อของคุณเพื่อชีวิตแบบกระฉับกระเฉงและยืนยาว

นี่คืออาหาร 9 ชนิดซึ่งอาจช่วยลดอาการปวดและเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวของข้อต่อ

1.กรดไขมันโอเมก้า-3 / น้ำมันตับปลา

ปลาทะเลที่อาศัยในน้ำเย็นคือแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ บางครั้งอาจถูกเรียกในฐานะกรดไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่หลายคู่ (Polyunsaturated fatty acid (PUFA)) นอกจากนี้ยังไม่ใช่แค่พิสูจน์ได้ว่าสามารถลดโปรตีนที่ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกาย แต่กรดไขมันโอเมก้า-3 ยังพัฒนาการทำงานของสมอง และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และอาการป่วยอื่น ๆ โอเมก้า -3 สามารถพบในปลาทะเลเขตหนาวจัด เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาเทราต์ ปลาแฮลิบัต และปลาซาดีน การรับประทานน้ำมันปลาเป็นอาหารเสริมเป็นอีกทางหนึ่งในการดูดซึมโอเมก้า -3

2.ถั่ว และ เมล็ดธัญพืช

เป็นข่าวดีสำหรับชาวมังสวิรัติและผู้ที่ไม่รับประทานผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลยเพราะ โอเมก้า -3 สามารถพบในถั่วหลากชนิดรวมถึงเมล็ดธัญพืช วอลนัทจำนวนเล็กน้อยสำหรับรับประทานต่อวัน แอลมอนด์ เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเชีย หรือเมล็ดสน สามารถช่วยลดการอักเสบในข้อต่อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

3.ผักวงศ์ผักกาด

คุณอาจะมีคำถามว่าผักเหล่านี้มีอะไรบ้าง มันเป็นที่รู้จักในฐานะพืชตระกูลกะหล่ำ(cruciferous vegetables) ปกติพืชวงศ์ผักกาดมักถูกจัดอยู่ร่วมกับมัสตาร์ดและพืชตระกูลกะหล่ำ มีใบเขียวเหมือนมัสตาร์ด ผักร็อกเก็ต ผักเคลหรือคะน้าใบหยัก และกะหล่ำม่วง ในวงศ์ผักกาดมีผักอีกหลากหลายที่เป็นที่นิยมและอร่อย! ได้แก่ บรอกโคลี และกะหล่ำดาว

กลุ่มย่อยของผักที่พิเศษนี้เป็นที่รู้ดีว่าสามารถบล็อกเอนไซม์ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการบวมที่ข้อต่อ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และสารอาหารเพื่อสุขภาพโดยรวมและคุณภาพชีวิตที่ดี

4.ผลไม้หลากหลายสี

ผลไม้บางครั้งอาจไม่เป็นที่นิยมเพราะมีปริมาณน้ำตาลสูง แต่จริง ๆ แล้วผลไม้หลายชนิดมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก เช่นเดียวกับผัก ผลไม้บางชนิดมีผลมากกว่าอย่างอื่นในการลดการอักเสบภายในร่างกาย

บูลเบอร์รี มีสารแอนโทไซยานินสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในสารที่อยู่ในกลุ่มของฟลาโวนอยด์ ( Flavonoid )หรือสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง สารเหล่านี้จะช่วยหยุดภาวะอักเสบในร่างกาย

แอปเปิ้ลเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ เป็นผลไม้ต่อต้านการอักเสบ และเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพลำไส้อีกด้วย

สับปะรดอยู่ในลิสต์ของเราด้วยเพราะมีเอนไซม์โบรมีเลน สารอาหารที่แสดงผลว่าสามารถลดการปวดข้อต่อซึ่งมีสาเหตุจากโรคข้อเสื่อมและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ อย่างไรก็ตามเอนไซม์โบรมีเลนถูกพบ ในลำต้นและแกนของสับปะรด ดังนั้นการปั่นแกนสับปะรดลงในสมูทตี้จะยิ่งเพิ่มประโยชน์ให้ได้มากที่สุด

และสุดท้ายมะเขือเทศ (ใช่แล้ว มันก็เป็นผลไม้เช่นกัน) มะเขือเทศประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพและไลโคปีน มะเขือเทศที่นำไปปรุงเป็นอาหารอุดมไปด้วยไลโคปีนมากกว่ามะเขือเทศดิบ ควรแน่ใจว่าได้รับประทานเปลือกของมะเขือเทศด้วยเพื่อรับประโยชน์สูงสุด

5.น้ำมันมะกอก

ลืมน้ำมันพืช น้ำมันทานตะวัน น้ำมันถั่วลิสงไป เพราะทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เพิ่มอาการอักเสบ ควรแทนที่ด้วยการเลือกใช้น้ำมันมะกอกเพียงไม่กี่ช้อนโต๊ะในการทำอาหารและปรุงน้ำสลัด และจะยิ่งดีกว่าถ้าใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ซึ่งแทบไม่ผ่านการแปรรูป มักพบบ่อยในอาหารเมดิเตอเรเนียน น้ำมันมะกอกคือไขมันไม่อิ่มตัว และนอกจากนั้นยังเป็นแหล่งของโอเมก้า-3 อีกแหล่งหนึ่ง!

6.กระเทียมและผักจำพวกราก

กระเทียม หัวหอมใหญ่ ขิง และขมิ้นมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ หลายการศึกษาแสดงผลให้เห็นว่า ผักชนิดรากที่มีรสเผ็ดร้อนกลิ่นฉุนมีประโยชน์ในการรักษาอาการของโรคข้ออักเสบและอาการปวดข้อต่ออื่น ๆ นำผักเหล่านี้มาใส่รวมกันในอาหารจะช่วยเพิ่มรสชาติ อีกทั้งยังพบได้ในอาหารเสริมด้วย

7.ธัญพืชเต็มเมล็ด

งานวิจัยแนะนำว่าโปรตีนซึ่งพบในธัญพืชที่ผ่านการสีแล้ว เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว และพาสต้าทั่วไปอาจกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย อย่างไรก็ตาม ธัญพืชเต็มเมล็ดที่มีไฟเบอร์สูงสามารถช่วยสร้างกรดไขมันที่ต่อต้านการอักเสบ ดังนั้น เราควรรับประทานธัญพืชเต็มเมล็ด

8.น้ำซุปจากโครงกระดูก

แน่นอนว่ามันคือคอลลาเจน แต่ก็เป็นกลูโคซามีนหรือและคอนดรอยตินเช่นกัน ซึ่งช่วยในการคงสภาพข้อต่อ ขณะที่แคลเซียมนั้นจำเป็นต่อความหนาแน่นของกระดูก น้ำซุปจากโครงกระดูกประกอบด้วยสิ่งเหล่านี้ สารซึ่งเหมือนเจลาตินนี้มาจากการทำอาการจากกระดูกเลียนแบบคอลลาเจนซึ่งปรากฏโดยธรรมชาติในข้อต่อ เส้นเอ็นและของเรา ไม่ว่าซุปจากโครงกระดูกจะสามารถกระตุ้นการงอกใหม่ของกระดูกอ่อนหรือไม่ มันยังคงเป็นประเด็นถกเถียงในวงการแพทย์ แต่การรับประทานทางปากเป็นอาหารเสริม เป็นที่รู้กันว่ามันสามารถลดการปวดของข้อต่อและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของข้อต่อในบุคคลที่เป็นโรคข้ออักเสบ

9.ดาร์กช็อกโกแลต

ตอนนี้เรากำลังกล่าวถึงช็อกโกแลตซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ โกโก้ที่เป็นวัตถุดิบหลักของช็อกโกแลตประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งสามารถต้านภาวะดื้ออินซูลินจากความบกพร่องทางพันธุกรรม และการอักเสบ ยิ่งมีเปอร์เซ็นต์โกโก้ในช็อกโกแลตมากเท่าไหร่ ยิ่งมีผลในการต้านการอักเสบมากขึ้นเท่านั้น

แต่ต้องคำนึงว่าช็อกโกแลตมีน้ำตาลและไขมันสูง ดังนั้นจึงควรบริโภคอย่างมีความสุขในปริมาณที่พอดี แต่ถ้าคุณอยากทานช็อกโกแลตจริง ๆ ให้เลือกช็อกโกแลตที่มีโกโก้เป็นส่วนผสมอย่างน้อย 70%

ดังนั้น ตอนนี้คุณมีลิสต์อาหาร 10 อย่างที่จะช่วยลดอาการปวดข้อต่อและการอักเสบ และแน่นอน มีบางสิ่งที่เราไม่ควรรับประทานเพื่อสุขภาพที่ดีของข้อต่อ ควรโปรดคำนึงถึงผลกระทบจากอาหารซึ่งเกี่ยวเนื่องกับอาการอักเสบ

  • ควบคุมการรับประทานธัญพืชขัดสี เช่น พาสต้า และขนมปังขาว
  • รับประทานเกลือแต่น้อย เกลือเป็นตัวการก่อให้เกิดการบวมน้ำร่วมกับการบวมของเนื้อเยื่อ อีกทั้ง องค์กรด้านโรคข้ออักเสบรายงานว่าการควบคุมปริมาณการรับประทานเกลือช่วยลดการสูญเสียแคลเซียม ดังนั้น จึงเป็นการลดความเสี่ยงจากภาวะกระดูกพรุนและการแตกร้าว
  • หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปหากเป็นไปได้
Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Login